การจัดฟันเป็นการแก้ปัญหาฟันที่เรียงตัวไม่สวยงาม ฟันยื่น ฟันซ้อน หรือฟันเก เป็นต้น โดยการติดเครื่องมือที่บริเวณผิวฟัน ใช้ลวดให้การดึงฟันให้เรียงชิดสวยงาม เป็นการจัดฟันเพื่อเสริมความมั่นใจต่อผู้ที่มีปัญหาฟังเรียงตัวไม่สวยงาม ให้มั่นใจในการยิ้มและใช้ชีวิตได้มากขึ้น
รีเทนเนอร์ คือ อะไร
เป็นเครื่องมือที่ใช้คงสภาพของฟัน หลังจากการจัดฟันเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว เพื่อกันปัญหาฟันล้ม และกันปัญหาไม่ให้ตัวฟันเคลื่อนจากตำแหน่งเดิม โดยผู้ที่จัดฟัน จะต้องใส่รีเทนเนอร์อย่างต่อเนื่องตามที่ทันตแพทย์สั่ง โดยระยะเวลาการใส่รีเทนเนอร์นั้น คนที่จัดฟันเรียบร้อยแล้ว ใน 6 เดือน – 1 ปีแรก จะบังคับใส่ตลอดเวลา และหลักจานนั้น 1-2 ปี ควรใส่ตอนนอน เป็นการรักษาฟันในเรียงตัว และกันฟันล้มหรือเคลื่อน จนเป็นสาเหตุให้ต้องจัดฟันใหม่อีกรอบ
รีเทนเนอร์มี 3 แบบ ดังนี้
1. รีเทนเนอร์แบบลวด
ถูกออกแบบมาให้ใส่ไว้บนเพดานปาก ด้านหน้าของรีเทนเนอร์เป็นลวดโลหะสำหรับทันตแพทย์ 1 เส้น สามารถถอดออกได้ มีหน้าที่ครอบฟันเพื่อป้องกันให้ฟันเรียงตัว มีความคงทน ไม่เสียหายง่ายใส่แล้วรู้สึกสบาย และข้อเสียลวดอาจจะโดนเหงือก อาจทำให้เกิดความละคายเคืองได้
2. รีเทนเนอร์แบบใส
ทำจากพลาสติก ออกแบบมาเป็นเหมือนตัวเคลือบฟัน ทำมาให้พอดีกับตำแหน่งฟัน โดยต้องใส่ตลอดเวลาเป็นระยะเวลา 6 เดือน โดยห้ามโดนความร้อน ข้อเสียคือ หากรักษาไม่ดี มีโอกาสเสียหายได้ง่ายกว่าแบบลวด
3. รีเทนเนอร์แบบติดแน่น
เป็นลวดเหล็กดัด ที่ยึดไว้ด้านหลังของตัวฟัน เพื่อป้องกันไม่ให้ฟันเคลื่อนที่จากตำแหน่งเดิม รีเทนเนอร์แบบนี้ จะไม่สามารถถอดเองได้ ทางทันตแพทย์จะเป็นคนเอาออกให้เอง
วิธีการดูแลรีเทนเนอร์เบื้องต้น
- แปรงรีเทนเนอร์ด้วยน้ำอุ่นทุกครั้งหลังอาหาร
- ทำความสะอาดรีเทนเนอร์ทันทีหลังจากถอดออกจากปาก
- ตามร่องรีเทนเนอร์ ให้ใช่สำลีก้านเช็ดเบา ๆ
- ไม่ควรห่อรีเทนเนอร์ด้วยกระดาษทิชชู่
- แช่น้ำยาเม็ดฟู่ หากมีคราบสะสมเยอะ
- หากชำรุด ควรพบทันตแพทย์เพื่อให้ทำอันใหม่
- เก็บรีเทนเนอร์ให้ห่างจากความร้อน
- ควรเก็บรีเทนเนอร์ไว้ในกล่องที่มิดชิด
การใส่รีเทนเนอร์หลังจากจัดฟันเสร็จเรียบร้อย เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด หากไม่ใส่รีเทนเนอร์ตามคำแนะนำของทันตแพทย์ จะทำให้เกิดปัญหาฟันล้ม หรือฟันเคลื่อนที่จากตำแหน่งที่ควรจะอยู่ จนอาจทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการจัดฟันใหม่ได้ โดยรายละเอียดการทำรีเทนเนอร์ สามารถดูได้ ที่นี่