การมีฟันที่ขาวสวยนั้นมักจะทำให้เจ้าของยิ้มได้อย่างมั่นใจ แต่หากฟันเหลืองนี่สิ ทำให้ไม่กล้ายิ้มหรือหัวเราะกว้างๆเลย เพราะรู้สึกอาย ไม่อยากเปิดเผยฟันเหลืองให้คนอื่นเห็น ถึงแม้การมีฟันเหลืองจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่ของช่องปาก แต่ก็เป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้หมดความมั่นใจได้เหมือนกัน
สาเหตุที่ทำให้ฟันเหลือง
สาเหตุที่ทำให้ฟันเหลืองแบ่งออกได้เป็น 2 สาเหตุใหญ่ๆ ได้แก่ ฟันเหลืองที่เกิดจากปัจจัยภายนอก และฟันเหลืองที่เกิดจากปัจจัยภายใน
- ฟันเหลืองที่เกิดจากปัจจัยภายนอก
ฟันเหลืองที่เกิดจากปัจจัยภายนอกเป็นสาเหตุของฟันเหลืองที่พบได้บ่อยสุด ส่วนใหญ่มักเกิดจากอาหาร และพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
- การดื่มชา กาแฟ เนื่องจากเครื่องดื่มเหล่านี้มีความเป็นกรด ทำให้เมื่อดื่มเข้าไปแล้วทำให้กัดกร่อนสารเคลือบฟันของเรา นอกจากนี้ใน ชา กาแฟ ยังมีสารโครโมเจนหรือสารที่ก่อให้เกิดสีในปริมาณสูง จึงทิ้งคราบไว้ที่ฟันของเรา ทำให้ฟันเหลืองได้
- การอมลูกอม หรือยาบางชนิด
- การสูบบุหรี่ สารเคมีที่เกิดการเผาไหม้ของการสูบบุหรี่จะไปสะสมอยู่บริเวณผิวฟัน และแทรกซึมเข้าไปในชั้นเนื้อฟัน ทำให้ฟันเหลืองหรือเปลี่ยนเป็นสีขุ่น
- การแปรงฟันไม่สะอาด จนเกิดการสะสมของคราบอาหาร แบคทีเรีย และหินปูน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุทำให้ฟันเหลือง รวมถึงโรคในช่องปากต่างๆ เช่น ฟันผุ และเหงือกอักเสบ
- ฟันเหลืองที่เกิดจากปัจจัยภายใน
ฟันเหลืองที่เกิดจากปัจจัยภายในนี้มักเกิดจากการที่คราบภายในเนื้อฟัน ไม่ใช่ผิวเคลือบฟัน จึงไม่สามารถรักษาได้ด้วยการขูดหินปูน
- เกิดจากผลข้างเคียงจากการใช้ยา เช่น การทานยาเตตราไซคลิน ในช่วงอายุที่กำลังสร้างฟัน จะทำให้ฟันไม่แข็งแรง ผุกร่อนได้ง่าย และทำให้ฟันเหลือง
- เกิดจากผลข้างเคียงของโรคบางชนิด เช่น โรคเกี่ยวกับถุงน้ำดี หรือการตั้งครรภ์ สามารถส่งผลกระทบให้ฟันเปลี่ยนสีได้เช่นกัน
- ฟันเหลืองจากอุบัติเหตุ เช่น การได้รับแรงกระแทกตรงฟันแรงๆในวัยเด็ก ทำให้เส้นประสาทที่เกี่ยวกับการสร้างฟันเสียหาย และส่งผลกระทบให้ฟันเปลี่ยนสี
- ฟันเหลืองจากการจัดฟัน อุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดฟัน เช่น แร่เงิน, มัลกัม สามารถทำให้ฟันเหลืองได้
- ฟันเหลืองจากกรรมพันธุ์ กรณีนี้เลี่ยงได้ยาก เพราะมันเป็นไปตามธรรมชาติ
- อายุ เมื่ออายุมากขึ้น ฟันถูกใช้งานมานาน เคลือบฟันจะบางลง จนมองเห็นสีเหลืองหรือน้ำตาลของเนื้อฟันชัดมากขึ้น
วิธีแก้ไขฟันเหลือง
ฟันเหลืองสามารถหาทางแก้ไขได้ ยกเว้นกรณีฟันเหลืองที่เกิดจากกรรมพันธุ์ ด้วยวิธี ดังนี้
- หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้ฟันเหลือง เช่น การดื่มชา, กาแฟ, สูบบุหรี่
- แปรงฟันให้ถูกวิธี โดยให้ความสำคัญกับการแปรงฟันมากขึ้น แปรงฟันอย่างน้อย 2 ครั้งต่อวัน และแปรงฟันหลังจากมื้ออาหารทุกมื้อ ระยะเวลาในการแปรงฟันควรแปรงฟันนานประมาณ 2 นาที ร่วมกับการใช้ไหมขัดฟันร่วมด้วย และเมื่อแปรงฟันแล้วควรงดรับประทานอาหาร งดสูบบุหรี่และงดเครื่องดื่มที่ทำให้ฟันเหลืองประมาณ 2 ชั่วโมง ส่วนการเลือกยาสีฟัน ให้เลือกยาสีฟันที่มีส่วนผสมของสารฟลูออไรด์ เพื่อช่วยป้องกันฟันผุ
- ขูดหินปูนและขัดฟัน เป็นการกำจัดคราบสีเหลืองต่างๆ เช่น คราบจากชา, กาแฟ, เครื่องดื่มมีสี, คราบ plaque จากการแปรงฟันไม่สะอาด, คราบจากการสูบบุหรี่ รวมถึงคราบหินปูนที่เกาะบริเวณผิวฟัน ให้ออกไป นอกจากจะทำให้ฟันขาวขึ้นในระดับหนึ่งแล้ว ยังทำให้สุขภาพช่องปากสะอาด และมีสุขอนามัยที่ดีด้วย
- ฟอกสีฟัน เป็นวิธีการทำให้ฟันขาวขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟันทาที่ผิวเคลือบฟันโดยตรง ทำให้สีในชั้นเนื้อฟันแตกตัวออก และมีสีขาวขึ้น มีทั้งแบบฟอกสีฟันที่คลินิกทันตกรรม และฟอกสีฟันด้วยตนเองที่บ้าน
- วีเนียร์ สามารถตอบโจทย์ปัญหาฟันเหลืองได้เป็นอย่างดี และเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน วีเนียร์ คือ การใช้แผ่นเคลือบฟันที่ด้านหน้าฟัน ทำจากวัสดุที่มีลักษณะคล้ายผิวเคลือบฟันตามธรรมชาติ ช่วยแก้ปัญหาฟันห่าง ลดความเสียหายต่อฟันที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และสามารถเลือกเฉดสีฟันได้ตามใจชอบ