ฟันปลอม
ฟันปลอม หรือที่ทางการแพทย์เรียกว่า ฟันเทียม คือสิ่งประดิษฐ์ที่สร้างขึ้นเลียนแบบฟันเพื่อใช้ทดแทนฟันธรรมชาติที่เสียไป ไม่ว่าจะเพื่อความสะดวกในการบดเคี้ยวอาหาร เสริมบุคลิกภาพ ทำให้การออกเสียงชัดเจนขึ้น ป้องกันปัญหาการล้มเอียงของฟันซี่ที่เหลือไปยังช่องว่างเหงือก คอยพยุงแก้มและริมฝีปากไว้ไม่ให้หย่อนคล้อยลงไป ซึ่งฟันปลอมสามารใส่เข้า และถอดออกจากปากได้
ฟันปลอมคือ ฟันที่ถูกทำขึ้นโดยทันตแพทย์เพื่อใส่ทดแทนฟันธรรมชาติและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ที่สูญเสียฟันให้ดีขึ้น ทำให้สามารถยิ้มได้อย่างมั่นใจ สวยงาม และเคี้ยวอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทำไมต้องใส่ฟันปลอม
- ช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพ เพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้ที่สูญเสียฟันธรรมชาติ โดยเฉพาะในฟันหน้า
- ช่วยในการบดเคี้ยวทำให้สามารถบดเคี้ยวอาหารได้ละเอียดขึ้น ทำให้กระเพาะอาหารไม่ต้องทำงานหนักจนเกินไป
- ช่วยป้องกันการเกิดฟันที่อยู่ข้างเคียงล้มเอียงหรือฟันคู่สบยื่นยาวเข้ามาหาช่องว่างที่สูญเสียฟัน
ฟันปลอม (Denture) มี 2 ชนิด คือ
1. ฟันปลอมถอดได้ เหมาะกับการใส่ฟันหลายๆ ซี่ หรือใส่ทันทีที่ถอนฟัน ข้อดีของฟันปลอมถอดได้ คือ ง่ายในการถอดทำความสะอาด ใส่ฟันได้หลายซี่หรือทั้งปาก ราคาถูกกว่า ฟันปลอมติดแน่น แต่ก็มีข้อเสีย คือ บริเวณเพดานปากจะกว้างกว่า เพื่อความแข็งแรง และช่วยการยึดติดจึงอาจทำให้รำคาญ เพราะยังไม่ชิน อาจมองเห็นตะขอ หรือเห็นได้ง่ายว่าใส่ฟันปลอม และแรงบดเคี้ยวน้อยกว่าฟันปลอมติดแน่น จึงเคี้ยวอาหารแข็งเหนียวได้ไม่
ฟันปลอมถอดได้ มี 2 แบบ คือ
- โครงโลหะ แบบนี้จะมีความแข็งแรงสูงกว่าโครงอะคริลิกมาก บางกว่า และแนบไปกับเพดานปากทำให้รู้สึกรำคาญน้อยกว่า แต่ราคาแพงกว่าโครงอะคริลิก
- โครงอะคริลิกหรือพลาสติก หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ฟันปลอมชั่วคราว มีความแข็งแรงน้อยที่สุด หนา ใส่ไม่สบาย อาจมีกลิ่นและสีเปลี่ยนเมื่อใช้ไปนานๆ อายุการใช้งานโดยเฉลี่ยของฟันปลอมถอด ได้อยู่ที่ 5-10 ปี แต่ผู้ป่วยบางรายอาจใส่ได้นานมากกว่าสิบปี หากดูแลฟันปลอมได้ดี และฟันปลอมไม่สึกไปก่อน
ข้อดี
– ฟันปลอมชนิดนี้ ช่วยให้ผู้ที่ใส่สามารถดูแลรักษาความสะอาดได้ง่าย
– ช่วยในการบดเคี้ยวอาหารได้
– ใส่ฟันได้หลายซี่หรือทั้งปาก ราคาถูกกว่าฟันปลอมติดแน่น
ข้อเสีย
– เกิดความรำคาญในขณะพูดหรือการเคี้ยวอาหาร
– ประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวจะต่ำกว่าฟันปลอมชนิดอื่น
– ไม่สวยงามอาจจะมองเห็นตะขอที่ใช้เกี่ยว
2. ฟันปลอมชนิดติดแน่น จะมีลักษณะ และขนาดเหมือนฟันธรรมชาติมากกว่าฟันปลอมถอดได้ จึงทำให้เรารู้สึกสบายกว่า ไม่มีส่วนของเหงือกปลอม หรือตะขอที่เกะกะ และการใช้งานเคี้ยวอาหารก็มีประสิทธิภาพมากกว่าฟันปลอมถอดได้ อย่างไรก็ตาม หากมีช่องว่างไร้ฟันที่กว้าง หรือถอนฟันไปหลายซี่จะไม่สามารถทำฟันปลอมติดแน่นได้ เนื่องจากหลักยึดอาจไม่เพียงพอที่จะรองรับฟันปลอม ที่เสริมขึ้นมาหลายซี่
ข้อดี
– ฟันปลอมติดแน่นจะมีลักษณะ และขนาดเหมือนฟันธรรมชาติมากกว่าฟันปลอมถอดได้ จึงทำให้เรารู้สึกสบายกว่า ไม่มีส่วนของเหงือกปลอม หรือตะขอที่เกะกะ และการใช้งาน ประสิทธิภาพดี แข็งแรง
– สวยงาม
ข้อเสีย
– ต้องมีการกรอฟันข้างเคียงเพื่อยึดฟันปลอม ทำให้สูญเสียเนื้อฟัน
– ถอดออกมาล้างทำความสะอาดไม่ได้ ติดอยู่ในปากของเราเลย หากเราแปรงฟันทำความสะอาดไม่ดีอาจทำให้ ฟันข้างเคียงเสียหายไปได้ เป็นโรคเหงือก หรือฟันผุได้ง่าย
– ราคาสูงกว่าแบบถอดได้
สิ่งที่ต้องดูแลเมื่อใช้ ฟันปลอมแบบถอดได้
สำหรับผู้ที่ใช้ ฟันปลอมแบบถอดได้ ช่วงแรกๆ นั้นจะรู้สึกไม่ถนัด จะต้องค่อยๆ ปรับตัวให้ชิน อย่างเช่น จะรู้สีกว่าฟันปลอมใหญ่ไป ทำให้พูดไม่ถนัด หรือมีน้ำลายออกมาเยอะ ซึ่งนั้นเป็นเรื่องปกติ อย่างพึ่งกังวลเพราะเมื่อปรับตัวได้สักพัก คนไข้ก็จะชิน และสำหรับบางคนนั้นจะมีปัญหาเรื่องการพูด ที่เมื่อใส่ฟันปลอมแล้วทำให้พูดได้ไม่ใชัด ทั้งน้สามารถแก้ไขโดยการฝึกพูดเสียงดังๆ หน้ากระจก เพื่อฝึกและสักเกตุ และปรับปรุงให้ลิ้นและ ฟันปลอม นั้นทำงานสัมพันธ์กัน จากนั้นก็จะทำให้พูดได้เป็นธรรมชาติ
สำหรับการบดเคี้ยวอาหารนั้น ในช่วงแรกๆ ที่คนไข้ยังไม่สามารถควบคุมการใช้งานของฟันปลอมได้มากนัก ให้เริ่มจากการบดเคี้ยวอาหารที่อ่อนๆ ก่อน อย่างเคี้ยวอาหารที่แข็งจนเกินไป และเมื่อมีความเคยชิน และสามารถควบคุมฟันปลอมได้มากขึ้น ก็สามารถค่อยๆ เพิ่มความแข็งของอาหาร และเพิ่มขนาดขึ้นได้
การดูแลรักษาความสะอาดของฟันปลอม แบบถอดได้
สำหรับผู้ที่ใส่ฟันปลอมนั้น จะต้องให้ความใส่ใจในเรื่องของการทำความสะอาดฟันปลอมให้เป็นอย่างมาก เพราะฟันปลอมนั้นอาจเป็นแหล่งสะสมแบคทีเรีย และก่อให้เกิดคราบหินปูน ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้ฟันปลอมนั้น มีกลิ่นปาก
สำหรับการรักษาความสะอาดฟันปลอม นั้น ผู้ที่ใช้จะต้องทำการแปรงฟันปลอม หลังรับประทารอาหารทุกครั้ง โดยใช้ยาสีฟันที่ไว้สำหรับในการแปรงฟันปลอม โดยเฉพาะ เพราะจะได้เป็นการถนอมฟันปลอมของผู้ใช้ และต้องแปรงฐานของฟันปลอมด้วยโดยการใช้แปรง แปรงทำความสะอาดกับยาสีฟัน หรือจะเป็นสบู่ก็ได้
สำหรับการใส่ฟันปลอม ชนิดถอดได้ นั้น ผู้ใช้ไม่ควรใส่ไว้ตลอดเวลา ควรจะถอดทำความสะอาด และแช่น้ำไว้เวลานอน และควรจะแช่น้ำยาสำหรับแช่ฟันปลอมอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง และการถอดฟันปลอมนั้นจะช่วยในเรื่องของการลดแรงกดทับที่จะเกิดขึ้น ซึ่งถ้าหากคนไข้ใส่ฟันปลอมตลอดเวลานั้น อาจจะส่งผลเสียได้ ยกตัวอย่างเช่น เกิดการระคายเคืองของเนื้อเยื่อในช่องปาก ส่งผลให้เกิดการอักเสบ หรือถ้าหากมีการระคายเคืองมากๆ ส่งผลรุนแรงทำให้เกิดเนื้องอก ชนิดไม่ร้ายแรงได้ และทั้งนี้การที่ใส่ไว้ตลอดเวลาก็ทำให้เกิดกลิ่นปาก
อาการที่พบได้หลังใส่ฟันปลอม
ในกรณีที่คนไข้ได้รับการถอนฟันก่อนทำฟันปลอม อาจจะต้องรอให้แผล และเหงือกสมานตัวดีก่อน ทันตแพทย์จึงทำการใส่ฟันปลอมให้ ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาหนึ่งในการปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้ได้ฟันปลอมที่มีความเหมาะสมกับสภาพช่องปากของคนไข้
โดยทั่วไปคนไข้สามารถพูดคุยได้เหมือนปกติ แต่อาจมีความรู้สึกไม่ค่อยสบายในการเคี้ยวอาหารซึ่งมักเกิดขึ้นได้ในช่วงแรก ๆ จนกว่ากล้ามเนื้อบริเวณกระพุ้งแก้มและลิ้นจะปรับตัวและเคยชินกับฟันปลอมใหม่ได้ ดังนั้น ทันตแพทย์จึงแนะนำให้คนไข้รับประทานอาหารอ่อนในช่วงแรก ๆ จนกว่าจะชินกับฟันปลอมที่ใส่
อาการอื่น ๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ เช่น อาการระคายเคือง อาการปวด หรือการมีน้ำลายออกมามากกว่าปกตินั้น เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ในช่วงระยะเวลาแรกของการใส่ฟันปลอม ซึ่งอาการต่าง ๆ จะลดลงและหายในที่สุดเมื่อช่องปากสามารถปรับเข้ากับฟันปลอม
ฟันปลอมสามารถอยู่ได้นานเท่าใด
ฟันปลอมที่ได้รับการดูแลรักษาอย่างดี และถูกต้องจะสามารถใช้งานได้นานหลายปี แต่เมื่อเวลาผ่านไป ฟันปลอมจะต้องมีการปรับ ทำใหม่ หรือเปลี่ยนฐานโดยยังคงตัวฟันไว้อยู่ เนื่องจากเหงือกหรือกระดูกฟันหดตัวลง นอกจากนี้ เมื่อเราอายุมากขึ้นปากของเราก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้ฟันปลอมหลวม ทำให้การเคี้ยวอาหารลำบาก และระคายเคืองเหงือก
ประโยชน์ของฟันปลอม
- ป้องกันปัญหาฟันเคลื่อนหรือล้มไปยังบริเวณช่องว่างที่เกิดจากการสูญเสียฟัน
- เพื่อความสวยงาม เพิ่มความมั่นใจในการพูดคุย
- ช่วยในการบดเคี้ยวอาหาร
การดูแลรักษาฟันปลอม
- เวลานอนควรถอดฟันปลอม เพื่อให้เหงือกได้พัก และลดแรงกดบนกระดูกขากรรไกร
- ดูแลทำความสะอาดฟันปลอมอย่างถูกวิธี เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการสะสมของคราบอาหารและแบคทีเรีย
- ขณะที่ไม่สวมใส่ฟันปลอม ควรแช่ฟันปลอมในน้ำสะอาดเพื่อความชุ่มชื้น และคงรูปตลอดเวลา
- ควรทำความสะอาดเหงือก ลิ้น กระพุ้งแก้ม และเพดานปากด้วยแปรงสีฟันอ่อน ๆ เพื่อสุขอนามัยที่ดี
- ถอดฟันปลอมออกล้างหลังจากรับประทานอาหาร ใช้น้ำชะล้างฟันปลอมเพื่อขจัดคราบอาหารที่ติดอยู่ออก
- จับฟันปลอมอย่างระมัดระวัง ป้องกันไม่ให้พลาสติกหรือตะขอของฟันปลอมโค้งงอขณะถอดออกมาล้างทำความสะอาด
- แปรงทำความสะอาดฟันปลอมอย่างน้อยวันละครั้ง ด้วยการจุ่มหรือแปรงด้วยน้ำยาหรือเม็ดฟู่สำหรับทำความสะอาดฟันปลอมที่ไม่มีฤทธิ์กัดกร่อน เพื่อช่วยขจัดเศษและคราบอาหาร รวมถึงกาวติดฟันปลอมที่อาจเหลือติดค้างอยู่ตามร่องฟันปลอม
- หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์กัดกร่อน และยาสีฟันที่ช่วยให้ฟันขาวหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารฟอกสีฟัน เพราะอาจทำให้ฟันปลอมเสียหายและมีสีหมองคล้ำลง
- หากรู้สึกว่าฟันปลอมไม่พอดีหรือเริ่มหลวมให้ไปพบทันตแพทย์ เนื่องจากฟันปลอมที่หลวมนั้นอาจเป็นสาเหตุให้เกิดอาการเจ็บปวด ระคายเคือง และเสี่ยงต่อการติดเชื้อตามมา
- ไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจฟันอย่างสม่ำเสมอ
ฟันปลอมเชียงใหม่
*ผลลัพธ์อาจแตกต่างแล้วแต่บุคคล
ฟันปลอมเชียงใหม่
*ผลลัพธ์อาจแตกต่างแล้วแต่บุคคล
ฟันปลอมเชียงใหม่
*ผลลัพธ์อาจแตกต่างแล้วแต่บุคคล
ฟันปลอมเชียงใหม่
*ผลลัพธ์อาจแตกต่างแล้วแต่บุคคล
ฟันปลอมเชียงใหม่
*ผลลัพธ์อาจแตกต่างแล้วแต่บุคคล
ฟันปลอมเชียงใหม่
*ผลลัพธ์อาจแตกต่างแล้วแต่บุคคล